รัฐบาล คลอด 6 มาตรการกู้วิกฤตการเงิน-กระตุ้นศก.

วันนี้ขอออกนอกเรื่องแวดวง internet เพราะตอนนี้เป็นห่วงเรื่องเศรฐโดยรวมทั้งโลกอยู่ว่ามันจะเจ๊งกันหมดรึเปล่า
เอาข่าวเศรษฐกิจมา (จากอีไฟแนนซ์ไทย) มาลุ้นกันว่าไทยเราจะบาดเจ็บจากวิกฤตินี้แค่ไหน ด้วยมาตรการ 6 ข้อนี้

รัฐบาล คลอด 6 มาตรการกู้วิกฤตการเงิน-กระตุ้นศก.
เน้นเดินหน้าเมกะโปรเจ็ก-เร่งเบิกจ่ายงบฯ-หนุนท่องเที่ยว
รัฐบาล ทุ่มงบ 1.2 ล้านล้านบาท ผุด 6 มาตรการกู้วิกฤตการเงิน-กระตุ้นศก.เน้นมาตรการเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาค ธุรกิจ-เร่งโครงการเมกะโปรเจ็ก -กระตุ้นส่งออกและท่องเที่ยว หวังปี 52 เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างน้อย 4%

นาย โอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ได้มีการหารือวาระพิเศษในวันนี้ เนื่องจากนายกฯ ได้มีการเรียกประชุมเพื่อวางแผนรับมือวิกฤตการเงินโลก เนื่องจากสถานการณ์การเงินโลกมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมาตรการ 6 ชุด เพื่อมารับมือสถานการณ์ต่างๆ คือ

1. มาตรการแรกเป็นมาตรการตลาดทุน เพื่อรองรับการขายหุ้นของต่างชาติที่ยังมีโอกาสขายออกมาประมาณ 1 แสนล้านบาท เพื่อดึงสภาพคล่องกลับไปยังประเทศตนเอง โดยมีมาตรการในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีให้กับกองทุน LTF และ RMF จาก 500,000 บาท เป็น 700,000 บาท โดยในส่วนของกองทุนต่างๆที่ได้ตั้งขึ้นมาในขณะนี้ก็มีเม็ดเงินรวมกันแล้วจำนวน 50,000 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้รวมถึงเงินในกองทุน Matching Fund ด้วย

2. เป็นมาตรการเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจ โดยธปท.ก็ได้ยืนยันว่าสภาพคล่องเงินบาทมีเพียงพอประมาณ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งธปท.ก็พร้อมที่จะดูแลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง โดยในส่วนของธนาคารพาณิชย์คาดว่าสินเชื่อปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% หรือ 4 แสนล้านบาท ส่วนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐสินเชื่อก็จะขยายประมาณ 5 หมื่นล้านบาท

3. มาตรการเร่งรัดรายได้ส่งออกและท่องเที่ยว โดยส่งออกและท่องเที่ยวจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 5% หรือคิดเป็นเม็ดเงินการส่งออก 3 แสนล้านบาท และท่องเที่ยว 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการส่งออกจะเน้นขยายตลาดในเอเชียตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย เพราะยังเป็นประเทศที่มีกำลังซื้ออยู่ ส่วนการท่องเที่ยวก็จะมีการจัดงานในการลดราคาสินค้าในช่วงที่เหลือของปีนี้

4. มาตรการสร้างเศรษฐกิจในประเทศ โดยจะมีการเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณในประเทศ โดยจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีการเบิกจ่ายให้มากที่สุดภายในครึ่งปีแรก

5. มาตรการเร่งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็ก) โดยจะมีงบลงทุนจาก 2.5 แสนล้านบาท เป็น 3.5 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% ของงบลงทุน

6. มาตรการประชาคมการเงินเอเชีย โดยจะเน้นความร่วมมือกับประเทศเอเชีย โดยญี่ปุ่นและจีนอาจจะต้องมีบทบาทนำระบบการเงินของโลก เอเชียต้องรักษาสถานการณ์ขยายตัวสูงให้มั่นคงเพื่อรักษาสภาพเศรษฐกิจเอเชีย และเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้รวม 6 มาตรการเข้าด้วยกันจะทำให้มีงบประมาณในการลงทุน รวมถึง 1.2 ล้านล้านบาท

“หากปฏิบัติได้ตาม 6 มาตรการนี้ก็จะกระตุ้นให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี 2552 ขยายตัวได้อย่างน้อย 4% ซึ่งหากทำได้เกินเป้าที่วางไว้ก็จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้นอีก” ดร.โอฬาร กล่าว

ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 13/10/08 เวลา 13:45:48


About this entry